Sweden

sweden

ระบบการศึกษา

การศึกษาของสวีเดน รัฐบาลเป็นผู้รับผิดชอบในด้านการศึกษาทุกระดับ และถือว่าเป็นการให้ฟรีแก่ประชาชน ฉะนั้น โรงเรียนหรือสถาบันการศึกษาทุกระดับของสวีเดนจึงเป็นสถาบันการศึกษาของรัฐเป็นส่วนใหญ่โดยกระทรวงศึกษาธิการและวิทยาศาสตร์เป็นผู้จัดการศึกษาทุกระดับ ยกเว้นการศึกษาก่อนวัยเรียน สวีเดนจัดการศึกษาภาคบังคับไว้ 9 ปี สำหรับเด็กสวีเดนที่อายุตั้งแต่ 6 ปี หรือ 7 ปีขึ้นไป

ระบบการศึกษาของสวีเดน

แบ่งเป็น 4 ระดับใหญ่ ๆ คือ ระดับอนุบาล ประถมศึกษา มัธยมศึกษา และอุดมศึกษา

อนุบาลหรือการศึกษาก่อนวันเรียน

(Kindergartens / Child Care Centre) การศึกษาก่อนวัยเรียนมิใช่การศึกษาภาคบังคับ พ่อแม่จะส่งเด็กเข้าศูนย์ก่อนวัยเรียนหรือไม่ ขึ้นอยู่กับความต้องการของผู้ปกครอง แต่รัฐบาลสวีเดนก็ให้ความรับผิดชอบดูแลในเรื่องนี้ด้วย โดยมีพระราชบัญญัติบริการสังคมปี ค.ศ.1980 (พ.ศ.2523) ให้มีผู้รับผิดชอบการศึกษาก่อนวัยเรียน คือ คณะกรรมการสวัสดิการและสุขภาพ แห่งชาติ และการบริหารจังหวัด ซึ่งหน่วยงานดังกล่าวจะได้รับเงินงบประมาณจาก เทศบาลและดูแลเด็กฟรีเฉพาะเด็กก่อนวัยเรียนที่มีอายุ 6 ปีเท่านั้น

ประถมศึกษา

เป็นการศึกษาภาคบังคับ สำหรับเด็กอายุ 6-11 ปี หรือ 7-12 ปี มีระยะเวลาศึกษา 6 ปี แบ่งการศึกษาออกเป็น 2 ระดับย่อยดังนี้

  1. ประถมศึกษาตอนต้น (Primary) รับนักเรียนตั้งแต่อายุ 6 ปี หรือ 7 ปี มีระยะเวลาศึกษา 3 ปี เรียกระดับชั้นเรียนว่าGrade 1 Grade 2 และGrade3
  2. ประถมศึกษาตอนปลาย (Upper Primary) เป็นการศึกษาต่อจากระดับประถมศึกษาตอนต้น เป็นระยะเวลาอีก 3 ปีคือ Grade 4 Grade 5 และ Grade 6

มัธยมศึกษา

มัธยมศึกษาของสวีเดน แบ่งเป็น 2 ระดับ คือ

1. มัธยมศึกษาตอนต้น (Lower Secondary)

มีระยะเวลาศึกษา 3 ปี เริ่มตั้งแต่ Grade 7 ถึง Grade 9 การศึกษาในระดับนี้ยังถือว่าเป็นการศึกษาภาคบังคับ ซึ่งเด็กบางคนอาจเรียนสำเร็จเมื่ออายุครบ 14 ปี หรือเด็กบางคนอาจอายุมากกว่านี้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับเด็กจะเริ่มเข้าโรงเรียนในขณะที่อายุ 6 ปี หรือ 7 ปี เนื่องจากการศึกษาภาคบังคับของสวีเดนกำหนดที่จำนวนปีในการศึกษาเป็น 9 ปี คือ ประถมศึกษาตอนต้นจนถึงมัธยมศึกษาตอนต้น หรือ Grade 1 ถึง Grade 9

นอกจากนี้ กระทรวงศึกษาธิการและวิทยาศาสตร์ของสวีเดนยังกำหนดจำนวนชั่วโมงที่เรียนในการศึกษาภาคบังคับทั้ง 9 ปี ไว้อย่างน้อย 6,665 ชั่วโมง โดยแยกระยะเวลาเรียนของสาขาวิชาการต่าง ๆ ทั้ง 6 สาขา (ตามที่กล่าวไว้ในวิชาที่เรียนของระดับประถมศึกษา)

2. มัธยมศึกษาตอนปลาย (Upper Secondary)

การศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย ไม่ถือว่าเป็นการศึกษาภาคบังคับเด็กจะศึกษาต่อ หรือไม่ก็ได้ แต่จากสถิติ ของทางการสวีเดน ระบุว่านักเรียนที่จบการศึกษาภาคบังคับแล้วประมาณ 95 % จะศึกษาต่อระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย จำนวน นักเรียนระดับมัธยมศึกษาตอนปลายในแต่ละโรงเรียนมีประมาณ 300 – 1,500 คน หรือโดยเฉลี่ยโรงเรียนละ700 คน

การศึกษาระดับนี้มีระยะเวลาศึกษา 3 ปี เรียกระดับชั้นว่า Grade 10,Grade 11และ Grade 12 สวีเดนได้จัดระบบมัธยมศึกษาตอนปลายใหม่เริ่มใช้ตั้งแต่ปี 1995/96 เรียกว่า โปรแกรมการเรียนแห่งชาติ (National Program) โดยมีสาขาวิชาต่าง ๆ จำนวน 16 สาขาวิชา แบ่งเป็นสายวิชาการหรือสายสามัญ 2 โปรแกรม และสายวิชาชีพ จำนวน 14 โปรแกรม โดยทุกโปรแกรมต้องเรียนวิชาบังคับของระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย 8 วิชาได้แก่ ภาษาสวีดิช ภาษาอังกฤษ คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ สังคมศาสตร์ ศาสนา พลศึกษา สุนทรียกิจกรรม และนักเรียนก็สามารถเลือกโปรแกรมการเรียนแห่งชาติประเภทวิชาการหรือวิชาชีพ ดังนี้

อุดมศึกษา

การศึกษาระดับอุดมศึกษาของสวีเดน แบ่งออกเป็น 2 ระดับ คือ

1. Undergraduate

สวีเดนถือว่าการศึกษาระดับ Undergraduate เป็นปริญญาแรก (First Degree) และแบ่งการศึกษาระดับนี้ออกเป็น 2 ประเภท ได้แก่ General degrees มี 3 ระดับ Diploma หรือ Certificate (Hogskoleexamen) เป็นการศึกษาต่อจากระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย (Upper Secondary) ใช้เวลาศึกษา 2 ปี เมื่อเรียนสำเร็จแล้วจะได้คุณวุฒิเป็น Diploma หรือ Certificate ในสาขาวิชาที่ศึกษา เช่น Musicals, Automatic Data Processing

Bachelor’s degree (Kandidatexamen) เป็นการศึกษาต่อจากมัธยมศึกษาตอนปลาย (Upper Secondary) ใช้เวลาศึกษา 3 ปี เมื่อเรียนสำเร็จแล้วจะได้คุณวุฒิเป็น Bachelor of Arts (B.A.) , Bachelor of Science (B.S.) , Bachelor of Education, Bachelor of Fine Arts

Master’s degree (Magisterexamen) เป็นการศึกษาที่สามารถศึกษาต่อจากมัธยมศึกษาตอนปลายก็ได้ หรือจะศึกษาต่อหลังจากสำเร็จปริญญาตรีแล้วก็ได้ หากศึกษาต่อจากมัธยมศึกษาตอนปลาย ต้องใช้เวลาศึกษา 4 ปี หากศึกษาหลังจากสำเร็จปริญญาตรีก็จะใช้เวลาศึกษาเพียง 1 ปี เมื่อเรียนสำเร็จการศึกษาแล้วจะได้รับคุณวุฒิเป็น Master of Arts หรือ Master of Science Professional degree เป็นการศึกษาวิชาชีพเฉพาะทาง ซึ่งเป็นปริญญาแรก (First degree) ในสายวิชาชีพนั้น ๆ โดยแต่ละสาขาวิชาชีพจะใช้เวลาในการศึกษาแตกต่างกันไป ในบางสาขาอาจใช้เวลาศึกษาเพียง 1 ปี หรือบางสาขาอาจใช้เวลาถึง 5 ปีครึ่ง

Professional degree ในวิชาชีพต่าง ๆ ได้แก่ สาขากฎหมาย สังคมศาสตร์ ศิลปศาสตร์ แพทยศาสตร์ ทันตแพทยศาสตร์ สัตวแพทย์ การสอน การเกษตร และเทคโนโลยี สำหรับคุณวุฒิที่ได้รับจะเรียกว่า University Diploma หรือ Master of …………เช่น สาขาแพทยศาสตร์ ใช้เวลาศึกษา 5½ ปี ได้คุณวุฒิ University Diploma สาขาทันตแพทย์ ใช้เวลาศึกษา 4½ ปี และต้องทำงานในคลีนิคของรัฐบาลอีก 1 ปี รวมเป็น 5½ ปี จึงจะสำเร็จการศึกษาได้คุณวุฒิ University Diploma in Dentistry

2. Graduate

เป็นการศึกษาต่อจากระดับ Undergraduate แบ่งเป็น 2 ระดับคือ

Licentiate degree (Licentiatexamen) ใช้เวลาในการศึกษาและทำวิทยานิพนธ์ 2 – 2½ ปี

Doctoral degree (Doktorsexamen) ใช้เวลาศึกษาและทำวิทยานิพนธ์เป็นเวลา 4 ปี

ภาคการศึกษาระดับอุดมศึกษาของสวีเดน เริ่มต้นภาคแรกประมาณกลางเดือนสิงหาคม และสิ้นสุดราวเดือนมิถุนายนของปีถัดไป โดยมีระยะเวลาศึกษาทั้งสิ้น 9 เดือน ช่วงหยุดเรียนเป็นเวลา 3 เดือน ปีการศึกษา แบ่งเป็น 2 ภาคดังนี้

ภาคแรก Autumn Term กลางเดือนสิงหาคม – กลางเดือนมกราคม (4½ เดือน)

ภาคที่สอง Spring Term กลางเดือนมกราคม – ต้นเดือนมิถุนายน (4½ เดือน)

ปิดภาคการศึกษาต้นเดือนมิถุนายน – กลางเดือนสิงหาคม (2½ เดือน)

ที่พักอาศัย

เรื่องที่พักอาศัยเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องคำนึงถึงและควรติดต่อจัดหาที่พักก่อนออกเดินทางไปศึกษา นักศึกษาสามารถหาข้อมูลและติดต่อจัดหาที่พักได้จากสถานศึกษาทุกแห่ง เนื่องจาก University หรือ University College ทุกแห่งจะมีหน่วยงานบริการในเรื่องนี้ เรียกว่า The Student Housing Office หากนักศึกษาสามารถติดต่อได้ล่วงหน้าประมาณ 6 เดือน ก็จะทำให้จัดหาที่พักในประเภทที่ตนต้องการได้ โดยทั่วไปที่พักสำหรับนักศึกษา มีดังนี้

1. หอพักในสถานศึกษา

โรงเรียนระดับมัธยมศึกษาในสวีเดนส่วนใหญ่จะไม่มีหอพักในสถานศึกษา แต่สำหรับระดับอุดมศึกษาแล้ว สถานศึกษาจะมีหอพักบริการ นักศึกษา หอพักส่วนใหญ่จะเป็นห้องเดี่ยว มีเฟอร์นิเจอร์ เช่น เตียงนอน โต๊ะทำงาน หมอน ผ้าห่ม ผ้าปูที่นอน ผ้าเช็ดตัว ส่วนห้องน้ำจะเป็นห้องรวมใช้ร่วมกับเพื่อนห้องถัดไป โดยห้องน้ำอยู่บริเวณระหว่างทางเดิน ส่วนห้องครัวจะใช้ร่วมกันหลายคน นอกจากนี้หอพักยังมีบริการซักรีด โดยใช้เครื่องซักผ้าและเครื่องอบผ้า มีห้องทีวี ห้องนั่งเล่น ห้องบริหารร่างกาย
ค่าหอพักราคาประมาณ SEK 2,000 – 2,200 สำหรับที่ Royal Institute
of Technology ราคาประมาณ SEK 2,200 (ปี ค.ศ.1998)

2. Apartment

ที่พักประเภท Apartment มีทั้งประเภท 2 เตียง หรือ 3 เตียง และให้เลือกทั้งประเภทมีเฟอร์นิเจอร์หรือไม่มีเฟอร์นิเจอร์ สำหรับค่าเช่า Apartment ขึ้นอยู่กับขนาดของห้องพัก และที่ตั้งในชุมชนหรือไกลชุมชน ราคาประมาณ SEK 1,500 – 5,000 ต่อเดือน เช่น ที่พักประเภท 3 เตียง มีเฟอร์นิเจอร์ ราคาประมาณ SEK 2,500 – 5,000 ต่อเดือน

3. ที่พักกับครอบครัวชาวสวีเดน

เป็นการเช่าที่พักโดยอยู่ร่วมกับเจ้าของบ้าน เจ้าของบ้านจะมีบริการอาหารให้ครบทุกมื้อหรือเป็นบางมื้อการซักรีดใช้เครื่องซักผ้าของเจ้าของบ้านหรือแล้วแต่จะตกลงกัน

การขอวีซ่า

ผู้ที่ประสงค์จะไปศึกษาต่อในประเทศสวีเดน จะต้องไปยื่นขอวีซ่านักเรียน หลังจากที่ได้รับหนังสือตอบรับจากสถานศึกษาแล้ว โดยจะต้องดำเนินการดังนี้

1. ขอแบบฟอร์มคำร้องขอวีซ่าที่สถานทูตสวีเดน ชั้นที่ 20 เฟริสแปซิฟิกส์เพลส เลขที่ 140 ถนนสุขุมวิท (ระหว่างซอย 4 และซอย 6) โทรศัพท์ 254-4955

2. ขอจองเวลาสัมภาษณ์ที่สถานทูต ฯ ผู้ขอต้องยืนยันเวลาสัมภาษณ์ 1 สัปดาห์ก่อนวันสัมภาษณ์ มิฉะนั้นสิทธิในการสัมภาษณ์ตามวันและเวลาที่จองไว้จะถูกตัดไป ก่อนจะยืนยันเวลาสัมภาษณ์ได้ ผู้ขอจะต้องจัดเอกสารให้ครบและให้เจ้าหน้าที่ของสถานทูตฯ ตรวจสอบก่อน

3. เอกสารที่ใช้ในการยื่นขอวีซ่า มีดังนี้

  • แบบฟอร์มขอวีซ่า 2 ชุด และฟอร์มประวัติครอบครัว 2 ฉบับ ซึ่งผู้ขอจะต้องกรอกอย่างละเอียดด้วยภาษาอังกฤษหรือภาษาสวีเดน
  • รูปถ่ายขนาด 1 นิ้ว จำนวน 2 รูป
  • หนังสือเดินทางซึ่งมีอายุใช้งานได้อีกไม่ต่ำกว่า 6 เดือน ถ่ายสำเนาหน้าที่มีเลขที่, ข้อมูลเกี่ยวกับผู้ขอ การต่ออายุของหนังสือเดินทาง และหน้าที่มีการประทับตราวีซ่าของประเทศสวีเดน (ถ้ามี)
  • บัตรประจำตัวประชาชนหรือใบแทน (ใบเหลือง) ถ่ายสำเนาและแปลเอกสาร
  • ทะเบียนบ้านหรือสำมะโนครัวฉบับเจ้าบ้าน ซึ่งมีชื่อผู้ขอรวมอยู่ด้วยถ่ายสำเนาและแปลเอกสาร ชื่อที่ต้องแปลคือ ผู้ขอเจ้าบ้าน และบุคคลซึ่งมีความเกี่ยวพันกับผู้ขอ เช่น พ่อแม่ พี่น้อง บุตร เท่านั้น ในกรณีที่ผู้ขอเคยย้ายสำมะโนครัวหลายครั้งกรุณาติดต่อเจ้าหน้าที่ก่อนนำไปแปล ทะเบียนบ้านที่นำมา แสดงนั้น ผู้ขอต้องมีชื่อยู่ในทะเบียนบ้านนี้ไม่ต่ำกว่า 5 ปี มิฉะนั้นจะต้องนำทะเบียนฉบับเก่ามาแสดงต่อเจ้าหน้าที่
  • หนังสือตอบรับจากสถานศึกษา
  • ใบแสดงผลการศึกษา (Transcript)
  • หลักฐานการรับรองฐานะทางการเงิน (เป็นภาษาอังกฤษ) ซึ่งต้องมีเงินอย่างน้อยเดือนละ 6,300 โครนสวีเดน เป็นเวลา 10 เดือน รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 63,000 โครนสวีเดนหรือ 328,230 บาท (อัตราแลกเปลี่ยน ณ วันที่ 3 ตุลาคม 2546) 1 โครนสวีเดน = 5.21 บาท
  • เอกสารพิเศษอื่น ๆ เช่นในกรณีที่ผู้ขอจดทะเบียนสมรสกับชาวสวีเดนแล้ว ต้องถ่ายสำเนาทะเบียนสมรส และหากจดทะเบียนในประเทศไทยให้นำทะเบียนสมรสไปแปลเอกสารด้วย
  • ถ้าผู้ขอมีบุตร จะต้องถ่ายสำเนาและแปลเอกสารใบสูติบัตรของบุตรทุกคน

ในกรณีที่ผู้ขอเคยจดทะเบียนสมรสมาก่อนและได้หย่าขาดจากสามี/ภรรยาเดิมแล้ว ผู้ขอจะต้องยื่นทะเบียนหย่า บันทึกการหย่าซึ่งต้องระบุว่าใครเป็นผู้ปกครองบุตร พร้อมแปลเอกสาร หากผู้ขอกำลังตั้งครรภ์ ให้นำใบรับรองแพทย์(จากโรงพยาบาล) มาแสดงด้วย

ผู้ขอที่เป็นชายอายุเกินกว่า 20 ปี ต้องนำเอกสารรับรองการเกณฑ์ทหาร หรือใบรับราชการทหารมาแสดงแก่เจ้าหน้าที่ (ไม่ต้องแปล)

หากผู้ขอนำบุตรไปด้วย ตามประกาศของรัฐบาลสวีเดน เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม 2532 เด็กอายุต่ำกว่า 16 ปี ต้องขออนุญาตเข้าอยู่อาศัยในประเทศสวีเดน ในกรณีที่ต้องการอยู่เกินกว่า 3 เดือน โดยยื่นเฉพาะเอกสารปกติไม่ต้องสัมภาษณ์

เด็กอายุต่ำกว่า 16 ปี ต้องเตรียมเอกสารดังต่อไปนี้

  1. กรอกแบบฟอร์มขอวีซ่าสำหรับเด็ก จำนวน 2 ฉบับ
  2. รูปถ่ายขนาด 1 นิ้ว จำนวน 2 ภาพ
  3. หนังสือเดินทาง ถ่ายสำเนาเช่นเดียวกับข้อ 3
  4. ต้นฉบับใบสูติบัตร
  5. ใบรับรองแพทย์มอบอำนาจในการปกครองบุตร

ถ้าผู้ปกครองของเด็กยื่นเอกสารในข้อ 4 และ 5 แล้ว เด็กไม่ต้องยื่นอีก ครั้งหนึ่ง แต่ต้องเคยยื่นมาแล้ว ไม่เกิน 2 ปี เอกสารทั้งหมดจะต้องยื่นรวม 2 ชุด เอกสารที่เป็นภาษาไทยผู้ขอจะต้องนำไปแปลเป็นภาษาอังกฤษหรือภาษาสวีเดน และผู้ขอจะต้องนำเอกสาร ต้นฉบับมาแสดงต่อเจ้าหน้าที่ด้วย สถานทูตฯ จะไม่รับแปลเอกสารและมีสิทธิ์ไม่รับเอกสารที่แปลไม่ถูกต้อง เอกสารที่แปลนั้นจะต้องแปลจากสำนักงานที่มีอนุญาตดำเนินการแปลเอกสารที่ถูกต้อง

ถ้าเอกสารที่นำมาไม่ครบหรือไม่เรียบร้อยในวันสัมภาษณ์ เจ้าหน้าที่ อาจจะปฏิเสธการสัมภาษณ์ และผู้ขอจะต้องขอนัดเวลาสัมภาษณ์ใหม่

4. ขั้นตอนการอนุมัติขอวีซ่า

  • ผู้ขอวีซ่าจะต้องยื่นเอกสารและสัมภาษณ์ที่สถานทูตสวีเดน ตามเวลาที่นัดไว้
  • หากผู้ขอผ่านการสัมภาษณ์แล้ว สถานทูตฯ จะส่งเอกสารไปยังกองตรวจคนเข้าเมืองในสวีเดนเพื่อพิจารณาและอนุมัติต่อไป โดยปกติจะใช้เวลาประมาณ 2 สัปดาห์ – 2 เดือน
  • เมื่อกองตรวจคนเข้าเมืองในสวีเดนอนุมัติวีซ่าให้ผู้ขอแล้ว สถานทูตฯ จะต้องประทับตราวีซ่าในหนังสือเดินทางของผู้ขอก่อนที่ผู้ขอจะเดินทางไปสวีเดน สถานทูตฯ จะรับประทับตราวีซ่าเฉพาะวันพฤหัสบดี ระหว่างเวลา 8.00- 11.00 น. เท่านั้น